สยอง!ป่าอาถรรพ์ อาโอกิกาฮาระ ณ ฟูจิ ภูเขาไฟสวยที่โด่งดังไปทั่วโลก ริมเชิงเขาไฟฟูจินี่เอง มีป่าแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า อาโอกิกาฮาระ(Aokigahara Forest) ได้ชื่อว่าเป็นป่าอาถรรพ์ เพราะป่าแห่งนี้เป็นป่าที่พบศพคนจำนวนมาก ที่เดินเข้าป่าไปเพื่ออัตวินิบาตกรรมตัวเอง ก็คือ การฆ่าตัวตายนั่นแหละ ในแต่ละปีจะพบชาวญี่ปุ่นไปสละร่างในป่านี้อย่างน้อย 100 ศพ (จากสถิติโดยรวมทั้งประเทศญี่ปุ่น มีนับพันคนต่อปีที่ฆ่าตัวตาย) โดยร่างไร้ลมหายใจที่พบส่วนมากจะเป็นการผูกคอตัวเองไว้บนต้นไม้ บางศพที่นานจนเนื้อหนังเน่าเปื่อยก็จะเหลือเป็นโครงกระดูกร่วงมานอนเหยียดยาวที่พื้นดินแทนอย่างที่กล่าวว่ามีการพบศพคนที่เข้ามาตั้งใจฆ่าตัวตายในป่าแห่งนี้นับ 100 คนต่อปี เมื่อเทียบกับอัตราการฆ่าตัวตายทั้งประเทศของญี่ปุ่นที่มีกว่า 2,000 คนต่อปี เป็นเรื่องที่น่าสนใจว่า เหตุใดชาวญี่ปุ่นจึงฆ่าตัวตายกันได้ง่ายๆ เป็นจำนวนมากขนาดนี้
อาจจะเนื่องมาจากสังคมญี่ปุ่น ได้รับอิทธิพลจากลัทธิบูชิโด (วิถีแห่งนักรบ) ซึ่งมีความเชื่อว่า คนเราบริสุทธิ์จากความผิดได้ด้วยการฆ่าตัวตาย อันจะเห็นได้ชัดเจนจากการฮาราคีรีตัวเองของเหล่านักรบ เมื่อได้ลงมือทำร้ายตัวเองจนถึงแก่ความตายแล้ว ความผิดทั้งหมดก็จะได้รับการอภัยจากสังคม
นี่อาจจะเป็นเพียงอีกหนึ่งเหตุผลของการฆ่าตัวตายของชาวญี่ปุ่น แต่นอกจากนั้น ก็ยังมีปัญหาสังคมต่างๆ ทั้งเล็กใหญ่ปะปนกันไปทั้ง ขาดความอบอุ่น อกหัก โดนรังแก การเงิน การงาน สารพัด นอกจากนั้นยังครอบคลุมไปถึงทุกกลุ่มอายุ และยังเรื่อยไปถึงทุกตำแหน่งหน้าที่การงาน ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่าคนญี่ปุ่นไม่ว่าใครก็มีโอกาสเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายได้แทบทั้งนั้นมองในอีกมุมหนึ่ง คือ เมื่อมีปัญหา และในสภาพสังคมที่มีการฆ่าตัวตายสูง ก็นำพาให้จิตใจอ่อนไหวที่จะฆ่าตัวตายสูงไปด้วยเช่นกัน



ทั้งหมดนี้เราไม่ทราบเลยว่า เหตุใดพวกเขาจึงต้องเลือกสถานที่แห่งนี้ หรืออาจจะเป็นอิทธิพลจากนวนิยายเรื่อง “คุโรอิ จูไค (Kuroi Jukai)” และภาพยนตร์เรื่อง “คิโนะอุมิ” ที่มีการดำเนินเรื่องโดยมีคู่รักได้เข้าไปฆ่าตัวตายเคียงกันนิรันดร์ในป่าแห่งนี้
ป่าอาโคคิกาฮาระ เรียกกันอีกชื่อว่า ทะเลป่า (The Sea of Trees) เนื่องจากมีความเชื่อว่าป่าแห่งนี้ มีวิญญาณต้นไม้ หรือโคดามะ อยู่ซึ่งวิญญาณของต้นไม้จะดูดเอาพลังงานชีวิตจากผู้เสียชีวิตกลับคืนเป็นพลังแห่งป่า เพื่อต้านภัยธรรมชาติและต้านภัยของมนุษย์ หรืออาจจะเป็นผู้ที่มีความเชื่อแบบนี้ว่า ต่อให้ตายก็ขอตายอย่างมีคุณค่า ไม่ใช่ตายเปล่าๆ เอาวิญญาณกลับคืนสู่ป่าดีกว่า จึงเป็นเหตุผลที่คนจำนวนมากเลือกสละวิญญาณที่นี่ ……… ก็เป็นอีกสมมติฐานที่น่าสนใจ



เรื่องราวทั้งหมดที่กล่าวมา น่ากลัวจริง และแสดงให้เห็นว่า การฆ่าตัวตาย ไม่ใช่ทางออกของปัญหาจริงๆ ไม่ได้เกิดคุณกับตัวเองหรือใครๆ แม้ขนาดจะมาปลิดชีพตัวเอง ยังทำให้สถานที่สวยงาม และน่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยว ยังต้องมีมลทินให้กลายเป็นสถานที่น่ากลัวไปได้! ใครที่จะคิดสั้น จงคำนึงสติ ถึงคนรอบข้างที่รักคุณเข้าไว้นะ… ข้อมูลและภาพ : dailymail.co.uk / pichappy / japantimes.co.jp / odditycentral.com เรียบเรียงโดย Travel MThai
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น